คุณจะออกเดินทางจาก อินเทอร์ลาเคน ออสต์ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง อินเทอร์ลาเคน และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ มิวนิค สถานีรถไฟ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ มิวนิค.
คุณจะออกเดินทางจาก อินเทอร์ลาเคน ออสต์ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง อินเทอร์ลาเคน และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ มิวนิค สถานีรถไฟ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ มิวนิค.
Ready to embark on an epic train ride from Interlaken to Munich? This famous journey offers the opportunity to experience some of Europe's most breathtaking landscapes, historical sites, and fascinating culture. The train ride takes approximately 8 hours and covers over 620 kilometers, passing through popular cities like Lucerne, Ulm, Augsburg, and Lindau.
Departing from Interlaken, you will journey through the majestic Swiss Alps and come across some of its iconic sights like the turquoise-blue lakes, snow-covered mountain peaks, and picturesque villages. On your way, you will pass by some of Switzerland's most popular cities, like Basel, where the Basel Cathedral stands tall.
As you enter Germany, you will get to explore the charming towns of Freiburg and Ulm. Visit the beautiful Old Town Hall of Ulm, which is the tallest church tower in the world! You will also pass by the Renaissance-style Augsburg Town Hall, before reaching the Bavarian city of Lindau.
Finally, you will arrive at the vibrant city of Munich, which has so much to offer! Be sure to explore the world-famous Marienplatz, where you will find the iconic Glockenspiel tower. Admire the neoclassical Bavarian State Library, travel through time at the Deutsches Museum filled with marvelous collections, and feast your eyes on the world-famous Hofbräuhaus.
Whether you choose to explore the cosmopolitan atmosphere of Munich or witness the beauty of nature in Switzerland, the Interlaken-Munich train ride presents the perfect chance to experience the best of both countries!
เยือนอินเทอร์ลาเคนและสัมผัสมนต์ขลังของประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมในเมืองที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันงดงามของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติและวัฒนธรรมยุโรป
Harder Kulm: ชมวิวเมืองอินเทอร์ลาเคนและทะเลสาบสองแห่งจากจุดชมวิวที่สูงที่สุด พร้อมร้านอาหารและการเดินทางด้วยกระเช้าไฟฟ้า ราคา €15 ต่อคน เวลาเปิด 10:00-20:30
Schynige Platte: เพลิดเพลินกับการเดินป่าและสวนพฤกษศาสตร์ในบรรยากาศแบบดั้งเดิมของสวิส เปิดตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม เดินทางสะดวกสบายด้วยรถไฟชันเขา
Unterseen: เมืองเก่าแก่ที่มีอาคารไม้สไตล์ชอนชาเล่ ที่พักอาศัยของชาวบ้านที่มีเสน่ห์ และมีคาเฟ่ริมน้ำที่โรแมนติก สำรวจได้ตลอดทั้งปี
พิพิธภัณฑ์ทัวร์บิลลอน: สำรวจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมการทำนาฬิกาของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในอาคารประวัติศาสตร์ มีการจัดแสดงนาฬิกาที่หลากหลายและเป็นที่น่าสนใจ
Hoheweg: ถนนหลักของเมืองที่มีร้านค้า ร้านอาหาร และวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาเยืองฟราว จุดเริ่มต้นที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นและช้อปปิ้ง
St. Beatus Caves: สำรวจถ้ำหินปูนที่มีตำนานโบราณและลักษณะภูมิประเทศที่น่าประทับใจ มีการจัดแสดงและทางเดินที่ได้รับการดูแลอย่างดี
เทศกาลอินเทอร์ลาเคนคลาสสิก: เพลิดเพลินกับเสียงเพลงคลาสสิกในบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร มักจัดขึ้นในช่วงเดือนกันยายน พบกับนักดนตรีชั้นนำจากทั่วโลก
เดินทางรอบอินเทอร์ลาเคนเป็นประสบการณ์ที่ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยความประทับใจจากสถานที่ต่าง ๆ แต่ยังรวมถึงการลิ้มรสอาหารสวิตเซอร์แลนด์แท้ ๆ เช่น ชีสฟอนดูและรอสตี้ที่ไม่ควรพลาด
สำรวจเสน่ห์ของ มิวนิค เมืองที่ผสมผสานความงามของศิลปะและประวัติศาสตร์อย่างลงตัว ด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม ซึ่งแนะนำให้เยี่ยมชมอย่างละเอียดดังนี้:
พระราชวังเรสซิเดนซ์ (Residenz München) ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สร้างขึ้นในปี 1385 ที่เคยเป็นที่พำนักของกษัตริย์และจักรพรรดิ์ของบาวาเรียน เปิดทุกวัน 09:00-18:00 ค่าเข้าชม €9. ควรเยี่ยมชมห้องพระบรรทมและห้องประทับต่างๆ เพื่อสัมผัสความหรูหราของศตวรรษที่ผ่านมา. โบสถ์เฟราเอ็นคิร์เช่ (Frauenkirche) ดีไซน์สถาปัตยกรรมกอธิคที่เด่นชัด เป็นโบสถ์ประจำมิวนิคที่สร้างในศตวรรษที่ 15 อยู่ใจกลางเมือง ไม่มีค่าเข้าชม และเปิดทุกวันตั้งแต่ 07:30-18:30 ขึ้นไปชมวิวจากยอดเขาเพื่อเห็นทัศนียภาพมิวนิคแบบ 360 องศา. สวนอังกลิสช์การ์เท็น (Englischer Garten) หนึ่งในสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของโลก มีพื้นที่กว่า 370 ไร่ เหมาะสำหรับการเดินเล่น ปิกนิก หรือแม้แต่เรือใบ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีค่าเข้าชม. พิพิธภัณฑ์เดอัลเทสปินาโคเทค (Alte Pinakothek) แหล่งรวมผลงานศิลปะจากช่วงศตวรรษที่ 14-18 ตั้งอยู่ที่ Barer Str. 27, เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ จาก 10:00-18:00 ค่าเข้าชม €7. แนะนำให้ชมผลงานของ Rembrandt และ Rubens. มารีเอนพลาทซ์ (Marienplatz) เป็นจัตุรัสหลักของมิวนิค มีตลาดหลากหลายและเป็นจุดจัดงานเทศกาลต่างๆ สำคัญที่สุดคือ โกล๊อคเอนชปีล หรือนาฬิกาที่มีตุ๊กตาเต้นรำทุกๆ ชั่วโมง. ประตูวิคตอเรีย (Victory Gate) ตั้งอยู่ที่ Leopoldstrasse สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะในสงครามเฟรนโก-พรัสเซีย สัญลักษณ์แห่งความสง่างามและชัยชนะ. เดอุช์ส เมือซี่ยม (Deutsches Museum) พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนเกาะบนแม่น้ำอิซาร์ มีการจัดแสดงที่หลากหลายตั้งแต่เรือบินไปจนถึงหุ่นยนต์ เปิดทุกวัน 09:00-17:00 ค่าเข้าชม €14.การเดินทางในมิวนิคนั้นสะดวกสบายด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ เช่น รถไฟใต้ดิน (U-Bahn) รถราง (Tram) และรถบัส ทำให้เดินทางไปยังจุดต่างๆ ได้โดยไม่มีความยุ่งยาก.
สถานีรถไฟหลักในอินเทอร์ลาเคนคืออินเทอร์ลาเคน ออสต์ (Interlaken Ost) ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญสำหรับการเดินทางไปยังเมืองอื่นๆ ในสวิตเซอร์แลนด์และยังเป็นประตูสู่ยูงเฟราที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟอินเทอร์ลาเคน เวสต์ (Interlaken West) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางเมืองและห้างสรรพสินค้าหลักของเมือง
สำหรับอินเทอร์ลาเคน ออสต์ ตั้งอยู่ที่ Untere Bönigstrasse 5, 3800 Interlaken สถานีเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 05:45 - 22:30 น. ที่สถานีมีบริการเก็บกระเป๋าซึ่งเป็นทางเลือกที่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจเมืองโดยไม่ต้องแบกรับภาระของกระเป๋าใบหนัก
มิวนิค หนึ่งในเมืองที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของ เยอรมนี มีสถานีรถไฟหลักที่เรียกว่า München Hauptbahnhof นอกจากนี้ยังมีสถานีสำคัญอื่นๆ เช่น München Ostbahnhof และ München Pasing ซึ่งเชื่อมต่อการเดินทางไปยังหลายส่วนของเมืองและประเทศใกล้เคียงได้อย่างสะดวกสบาย
สถานีเหล่านี้ถือเป็นจุดหมุ่นของการเดินทางทางรถไฟในยุโรป
สถานี München Hauptbahnhof ตั้งอยู่ที่ Bahnhofplatz 1, 80335 München, เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 00:00 น. ถึง 24:00 น. ที่นี่มีบริการ เก็บกระเป๋า ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจเมืองโดยไม่ต้องแบกสัมภาระไปด้วย
นอกจากนี้ยังมีบริการตั๋วรถไฟ, ร้านอาหาร, และร้านค้าที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ