คุณจะออกเดินทางจาก ซาโวนา ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง ซาโวนา และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เจโนวา ปียซซ่า ปรินชิเป ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ เจนัว.
คุณจะออกเดินทางจาก ซาโวนา ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง ซาโวนา และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เจโนวา ปียซซ่า ปรินชิเป ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ เจนัว.
การเดินทางโดยรถไฟจากซาโวนา ไปเจนัว เป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความงามของชายฝั่งลิกูเรีย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40-50 นาที โดยมีรถไฟหลายขบวนให้บริการตลอดวัน ทั้งในรูปแบบธรรมดาและด่วน สถานีรถไฟหลักของทั้งสองเมืองคือ สถานีรถไฟซาโวนา และ สถานีรถไฟเจนัว ปรินซิเป ซึ่งเป็นสถานีหลักของเจนัวที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
ระหว่างการเดินทาง คุณจะผ่านเมืองเล็กๆ ที่มีความสำคัญ เช่น วาราซเซ และ อาลบิสโซลา ซึ่งเป็นที่รู้จักจากบ้านเรือนที่มีสีสันสดใส และชายฝั่งที่สวยงาม
เมื่อถึงเจนัว อย่าลืมเยี่ยมชมสถานที่สำคัญอย่าง ตึกสีแดง (Palazzo Rosso) และพิพิธภัณฑ์ทางทะเล ซึ่งเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป นอกจากนี้ยังมีสวนสาธารณะ และย่านเมืองเก่า ที่เต็มไปด้วยอาคารที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามและประวัติศาสตร์ยาวนาน
เส้นทางนี้ไม่เพียงแต่เชื่อมต่อสองเมืองหลักของลิกูเรีย แต่ยังเปิดโอกาสให้คุณสัมผัสกับวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความงดงามของภูมิภาคนี้อย่างใกล้ชิด
รถไฟจาก ซาโวนา ไปยัง เจนัว ใช้เวลาเท่าไหร่?
เส้นทางรถไฟจาก ซาโวนา ไป เจนัว ใช้เวลาประมาณ 30-50 นาที ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟและจำนวนสถานีที่หยุด
การเดินทางที่เร็วที่สุดจาก ซาโวนา ไปยัง เจนัว โดยรถไฟคืออะไร?
รถไฟ Intercity หรือรถไฟฟ้าแบบ Regionale Veloce ถือเป็นการเดินทางที่เร็วที่สุดจาก ซาโวนา ไป เจนัว
รถไฟจาก ซาโวนา ไปยัง เจนัว ราคาเท่าไหร่?
ราคาตั๋วรถไฟจาก ซาโวนา ไป เจนัว อยู่ระหว่าง €4 ถึง €11 ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟและชั้นที่เลือก
มีรถไฟวิ่งตรงจาก ซาโวนา ไปยัง เจนัว หรือไม่?
ใช่ มีรถไฟวิ่งตรงจาก ซาโวนา ไปยัง เจนัว โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวน
ระยะทางจาก ซาโวนา ไปยัง เจนัว โดยรถไฟเท่าไหร่?
ระยะทางโดยรถไฟจาก ซาโวนา ไป เจนัว อยู่ที่ประมาณ 45 กิโลเมตร
รถไฟจะหยุดที่เมืองใดบ้างในเส้นทางจาก ซาโวนา ไปยัง เจนัว?
รถไฟบางขบวนอาจหยุดที่เมือง Varazze, Cogoleto, และ Arenzano ก่อนถึง เจนัว
เนื้อหนานวลและเปี่ยมด้วยเสน่ห์ของ ซาโวนา อันเป็นเมืองในภูมิภาคลิกูเรียของ อิตาลี ดึงดูดผู้ที่หลงใหลในความงามของประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมไปพร้อม ๆ กับอาหารท้องถิ่นที่ชวนลิ้มลอง ต่อไปนี้คือรายการสถานที่ท่องเที่ยวและอาหารที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองนี้:
ปราสาท Priamar: ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มองเห็นทิวทัศน์ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน, พิพิธภัณฑ์และพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ โดยมี ค่าเข้าชม €5, เปิดทุกวัน 10:00-18:00. โบสถ์ Cattedrale di Nostra Signora Assunta: โบสถ์แบบโรมาเนสก์ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม, เปิดตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 16, เปิดทุกวันโดยไม่มีค่าใช้จ่าย. ลานาจาและดูซิตี้: สถานที่ดำน้ำชมปะการังและชีวิตใต้ทะเล, ตั้งอยู่ห่างจากศูนย์กลางเมือง 4 กิโลเมตร, มีทั้งหมดดำน้ำและการเรียนรู้สำหรับมือใหม่. พิพิธภัณฑ์ศิลปะซาโวนา: จัดแสดงผลงานศิลปะของศิลปินท้องถิ่นและนานาชาติ, เปิดทุกวัน 09:00-19:00, ค่าเข้าชม €2. ตลาด Porta Soprana: ตลาดท้องถิ่นที่ขายผลิตภัณฑ์อิตาลีแท้และของที่ระลึก, เปิดทุกวันจันทร์ถึงเสาร์จาก 08:00-14:00. พระราชวัง Doria: อาคารแบบพื้นเมืองของซาโวนาที่มี สถาปัตยกรรม โกธิกและเรเนสซองส์, เปิดเยี่ยมชมตามนัดหมาย, ค่าใช้จ่าย €4. ร้านอาหาร Vittorio: ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นอย่าง Farinata และ Trofie al pesto, ตั้งอยู่ใจกลางเมือง, เปิดทุกวัน.การเดินทางรอบ ซาโวนา โดยรถไฟและเดินเท้าให้โอกาสในการสัมผัสกับความงดงามของเมืองอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้การวางแผนการเดินทางและการเตรียมตัวล่วงหน้าจะช่วยให้คุณได้สัมผัสกับทุกมิติของซาโวนาอย่างเต็มที่
เจนัว (Genoa) เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ จากอดีตที่รุ่งเรืองเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเล จนถึงวัฒนธรรมที่ล้ำลึก ทำให้เจนัวเป็นเมืองที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมยุโรป
ปาลาซโซ ดูคาเล: ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเจนัว สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ครั้งหนึ่งเป็นที่ประทับของผู้ปกครองเจนัว ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน ค่าเข้าชม €5 ผู้เยี่ยมชมสามารถชื่นชมห้องโถงที่ตกแต่งอย่างหรูหราและผลงานศิลปะจากยุคต่างๆ โบสถ์ซาน ลอเรนโซ: โบสถ์นี้มีเสน่ห์ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิกและระยะเวลาก่อสร้างที่ยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 ถึง 14 เปิดบริการทุกวัน ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม แต่ควรแต่งกายสุภาพ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติลิกูเรีย: ก่อตั้งเพื่อจัดแสดงงานศิลปะและวัตถุโบราณจากเจนัวและลิกูเรีย ตั้งอยู่ในพระราชวังสปิโนลา ค่าเข้าชม €7 เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ บีโกลิโอโดยักษ์: เป็นตัวอย่างของศิลปะถนนที่โดดเด่นของเจนัว ตั้งอยู่ใน Via del Campo ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย แนะนำให้เดินเล่นในยามเย็น พระราชวังรีโอลี: สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 สำหรับครอบครัวรีโอลีที่ร่ำรวย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเพื่อดูการตกแต่งภายในและสวนที่งดงาม ค่าเข้าชม €6 ประตูซัสเซโร: หนึ่งในประตูเมืองโบราณที่ยังคงอยู่ในเจนัว มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสำรวจเมืองเก่าของเจนัว ไม่มีค่าเข้าชม พิพิธภัณฑ์ซีเมนเตวา: มุ่งเน้นไปที่ประวัติศาสตร์ทางทะเลของเจนัว ตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือ เป็นที่นิยมสำหรับครอบครัว ค่าเข้าชม €5 มีส่วนลดสำหรับเด็กและผู้สูงอายุการเดินทางรอบเมืองเจนัวนั้นเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ที่ผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบัน ทุกมุมมองของเมืองนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวและสถาปัตยกรรมที่ทำให้ผู้เยี่ยมชมหลงใหลไม่รู้ลืม เจนัวคือเมืองที่จะทำให้คุณต้องตื่นตาตื่นใจกับทุกการเดินทาง
เมืองซาโวนา ซึ่งตั้งอยู่ในอิตาลี เป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟหลักที่มีชื่อว่า สถานีรถไฟซาโวนา ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญสำหรับการเดินทางไปยังเมืองต่างๆ ในอิตาลีและยุโรป นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟย่อยอื่นๆ ภายในเมือง เช่น สถานีซาโวนา วาโด และ สถานีซาโวนา อาลบิซโซลา ซึ่งให้บริการเชื่อมต่อกับพื้นที่ใกล้เคียงอีกด้วย
สำหรับสถานีรถไฟซาโวนา ตั้งอยู่ที่ Piazza Aldo Moro 1, 17100 Savona, Italy สถานีนี้เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06:00 น. ถึง 23:00 น. ที่สถานีนี้มีบริการ เก็บกระเป๋า ซึ่งเป็นบริการที่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ โดยไม่ต้องหอบหิ้วสัมภาระให้ลำบาก
เมืองเจนัวในอิตาลีเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟหลักที่มีชื่อว่าสถานีรถไฟเจนัว ปรินซิปาเล (Genova Piazza Principe) ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญในเครือข่ายการเดินทางทางรถไฟของตัวเมืองและภูมิภาคลิกูเรีย นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟเจนัว บริโญล (Genova Brignole) ที่ให้บริการเส้นทางทั้งในและนอกเมือง ทำให้การเดินทางไปยังเมืองใหญ่อื่นๆ ในประเทศอิตาลีและยุโรปเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบาย
ที่อยู่ของสถานีรถไฟเจนัว ปรินซิปาเล คือ Piazza Acquaverde, 16126 Genova, อิตาลี สถานีเปิดให้บริการทุกวันจากเวลา 04:30 น. ถึง 01:30 น. ภายในสถานีมีบริการเก็บกระเป๋า ให้ผู้โดยสารสามารถเก็บสัมภาระไว้ชั่วคราวได้อย่างปลอดภัยขณะทำการเดินทางหรือสำรวจเมืองเจนัว บริการนี้เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกในการเดินทางและทำธุระในเมืองโดยไม่มีสัมภาระที่หนักหน่วง
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ