คุณจะออกเดินทางจาก โคเบล็นส์ สถานีรถไฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง Koblenz และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ มิวนิค สถานีรถไฟ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ มิวนิค.
รถไฟจาก Koblenz ไปยัง มิวนิคจาก $ 77.65
เที่ยวเดียว
รถไฟจาก Koblenz ไปยัง มิวนิค
เวลาการเดินทาง
เวลา 5h 0m
ราคา
จาก $ 77.65
ระยะทาง
420 กิโลเมตร (261 ไมล์)
เปลี่ยนแปลง
ไม่มีรถไฟวิ่งตรงให้บริการ
สถานีต้นทาง
โคเบล็นส์ สถานีรถไฟ
สถานีปลายทาง
มิวนิค สถานีรถไฟ
การเดินทางโดยรถไฟ: Koblenz - มิวนิค
รายละเอียดการเดินทาง
How long does that train from Koblenz to Munich take?
The journey time for trains from Koblenz to Munich varies, but on average, it takes approximately 5 hours and 30 minutes.
What is the fastest journey from Koblenz to Munich by train?
The fastest train journey from Koblenz to Munich can take around 4 hours and 40 minutes.
How much does the train cost from Koblenz to Munich?
Train ticket prices from Koblenz to Munich can vary, but they start at approximately €29 when booked in advance.
How much does the Koblenz to Munich?
No, there are no direct trains from Koblenz to Munich. Typically, one or more changes are required.
What is the distance from Koblenz to Munich by train?
The distance from Koblenz to Munich by train is approximately 500 Km.
Which are the cities that the train stops from Koblenz to Munich?
On the route from Koblenz to Munich, trains may stop in cities like Mainz, Frankfurt, Nuremberg, and often in Augsburg.
Koblenz: สถานที่ท่องเที่ยว
Koblenz, in western Germany, is a charming city on the banks of the Rhine and Moselle rivers. This city is known for its UNESCO-listed historical monuments, picturesque Rhine Valley scenery, and unique culture. Whether you’re in town for the day or staying longer, there’s no shortage of exciting attractions to explore. Here’s our list of the top 7 places to visit in Koblenz that you shouldn't miss.
Deutsches Eck (German Corner): Located where the Rhine and Moselle rivers meet, this iconic monument is the symbol of Koblenz. The monument was created in 1897 to commemorate the unification of Germany and features a large equestrian statue of Kaiser Wilhelm I, the first Emperor of Germany. From the lookout platform, you’ll get a wonderful view of the rivers and the Old Town of Koblenz. Entrance to Deutsches Eck is free and it is open daily from 9am to 9pm.
Festung Ehrenbreitstein: Located on the opposite side of the Rhine, Festung Ehrenbreitstein is one of the best preserved medieval fortresses in Europe. Situated on a hilltop above the Rhine, it offers spectacular views of the Moselle Valley. The fortress is open from 10am-6pm and tickets for adults are 11€ and 5€ for children. There is also a cable car that takes visitors from the Old Town to the fortress, and tickets for the cable car are 5,50€ for adults and 2,75€ for children.
Old Town: The heart of Koblenz is the old town, which dates back to the Middle Ages. Stroll through the cobbled streets and visit landmarks such as the statue of Kaiser Wilhelm I, the Baroque-style Basilica of St. Kastor, and the Liebfrauenkirche.
Kurfürstliches Schloss: Located in the city centre, this Baroque-style palace was once the residence of the Prince-Bishops of Trier. Today, the palace houses a museum and one of the world’s largest collections of tapestries and carpets. Entrance to the museum is 7€ for adults and 4€ for children and it is open from 10am-5pm.
Koblenz Cable Car: Built in 1965, this cable car is the world’s first suspension cable car. It crosses the Rhine from the Old Town to the Festung Ehrenbreitstein fortress and offers breathtaking views of the city. The cable car runs from 10am-6pm and tickets for adults are 5,50€ and 2,75€ for children.
Inner Town Gardens: These beautiful gardens are an oasis of peace and tranquillity in the heart of Koblenz. The gardens feature a picturesque pond, as well as numerous sculptures and statues. Entrance to the gardens is free and they are open daily from 9am-5pm.
Germanic National Museum: Located in a neo-Renaissance building, this museum houses a vast collection of art and artifacts from the Middle Ages to the present day. Entrance to the museum is 10€ for adults and 5€ for children and it is open from 10am-5pm.
A trip to Koblenz is incomplete without sampling the local cuisine. The city is known for its hearty stews, sauerkraut and cabbage dishes. Be sure to try the traditional Koblenz Mettwurst – a type of pork sausage – and the local riesling wine.
Koblenz is a beautiful city with plenty of fascinating attractions. Now that you have this list of must-visit sites and tantalizing dishes to try, you can plan the perfect trip and make the most of your visit.
มิวนิค: สถานที่ท่องเที่ยว
สำรวจเสน่ห์ของ มิวนิค เมืองที่ผสมผสานความงามของศิลปะและประวัติศาสตร์อย่างลงตัว ด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม ซึ่งแนะนำให้เยี่ยมชมอย่างละเอียดดังนี้:
พระราชวังเรสซิเดนซ์ (Residenz München) ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สร้างขึ้นในปี 1385 ที่เคยเป็นที่พำนักของกษัตริย์และจักรพรรดิ์ของบาวาเรียน เปิดทุกวัน 09:00-18:00 ค่าเข้าชม €9. ควรเยี่ยมชมห้องพระบรรทมและห้องประทับต่างๆ เพื่อสัมผัสความหรูหราของศตวรรษที่ผ่านมา. โบสถ์เฟราเอ็นคิร์เช่ (Frauenkirche) ดีไซน์สถาปัตยกรรมกอธิคที่เด่นชัด เป็นโบสถ์ประจำมิวนิคที่สร้างในศตวรรษที่ 15 อยู่ใจกลางเมือง ไม่มีค่าเข้าชม และเปิดทุกวันตั้งแต่ 07:30-18:30 ขึ้นไปชมวิวจากยอดเขาเพื่อเห็นทัศนียภาพมิวนิคแบบ 360 องศา. สวนอังกลิสช์การ์เท็น (Englischer Garten) หนึ่งในสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของโลก มีพื้นที่กว่า 370 ไร่ เหมาะสำหรับการเดินเล่น ปิกนิก หรือแม้แต่เรือใบ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีค่าเข้าชม. พิพิธภัณฑ์เดอัลเทสปินาโคเทค (Alte Pinakothek) แหล่งรวมผลงานศิลปะจากช่วงศตวรรษที่ 14-18 ตั้งอยู่ที่ Barer Str. 27, เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ จาก 10:00-18:00 ค่าเข้าชม €7. แนะนำให้ชมผลงานของ Rembrandt และ Rubens. มารีเอนพลาทซ์ (Marienplatz) เป็นจัตุรัสหลักของมิวนิค มีตลาดหลากหลายและเป็นจุดจัดงานเทศกาลต่างๆ สำคัญที่สุดคือ โกล๊อคเอนชปีล หรือนาฬิกาที่มีตุ๊กตาเต้นรำทุกๆ ชั่วโมง. ประตูวิคตอเรีย (Victory Gate) ตั้งอยู่ที่ Leopoldstrasse สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะในสงครามเฟรนโก-พรัสเซีย สัญลักษณ์แห่งความสง่างามและชัยชนะ. เดอุช์ส เมือซี่ยม (Deutsches Museum) พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนเกาะบนแม่น้ำอิซาร์ มีการจัดแสดงที่หลากหลายตั้งแต่เรือบินไปจนถึงหุ่นยนต์ เปิดทุกวัน 09:00-17:00 ค่าเข้าชม €14.การเดินทางในมิวนิคนั้นสะดวกสบายด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ เช่น รถไฟใต้ดิน (U-Bahn) รถราง (Tram) และรถบัส ทำให้เดินทางไปยังจุดต่างๆ ได้โดยไม่มีความยุ่งยาก.
Koblenz: สถานีรถไฟหลัก
Koblenz is one of the most important cities of Germany located at the confluence of the Rhine and Moselle rivers. It has a main train station, Koblenz Hauptbahnhof, that links the city with the rest of the country. Additionally, there are several other train stations such as Koblenz Lützel, located in the Lützel neighbourhood, and Koblenz Horchheim, which is closer to the old city centre.
Koblenz Hauptbahnhof is located at Lützeler Straße 25, 56070 Koblenz, Germany, and it is open daily from 4:15 to 1:00. The station offers several services, such as a ticket and information office, an ATM, and a luggage storage. To contact the station, you can call 01806/99 66 33 (14 cents/min) or +49 261-12 80.
- โคเบล็นส์ สถานีรถไฟ
- Koblenz-Lützel
มิวนิค: สถานีรถไฟหลัก
มิวนิค หนึ่งในเมืองที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของ เยอรมนี มีสถานีรถไฟหลักที่เรียกว่า München Hauptbahnhof นอกจากนี้ยังมีสถานีสำคัญอื่นๆ เช่น München Ostbahnhof และ München Pasing ซึ่งเชื่อมต่อการเดินทางไปยังหลายส่วนของเมืองและประเทศใกล้เคียงได้อย่างสะดวกสบาย
สถานีเหล่านี้ถือเป็นจุดหมุ่นของการเดินทางทางรถไฟในยุโรป
สถานี München Hauptbahnhof ตั้งอยู่ที่ Bahnhofplatz 1, 80335 München, เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 00:00 น. ถึง 24:00 น. ที่นี่มีบริการ เก็บกระเป๋า ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจเมืองโดยไม่ต้องแบกสัมภาระไปด้วย
นอกจากนี้ยังมีบริการตั๋วรถไฟ, ร้านอาหาร, และร้านค้าที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว
- มิวนิค สถานีรถไฟ
- München Ost
- München-Pasing
- München Hackerbrücke
Koblenz - มิวนิค: วิธีการหาข้อเสนอที่ดีที่สุด
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ
ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ
ต้องการความช่วยเหลือจากเราหรือไม่?
การชำระเงินที่รับประกัน
ใบรับรอง
