คุณจะออกเดินทางจาก มิลาน โซนทราเล ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง มิลาน และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เรียมาจิโอเร ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ ปอร์โตเวเนเร.
คุณจะออกเดินทางจาก มิลาน โซนทราเล ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง มิลาน และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เรียมาจิโอเร ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ ปอร์โตเวเนเร.
Are you ready for an unforgettable journey along the stunning Italian coastline? Hop on a train from Milan to Portovenere and prepare to be mesmerized by the beauty that awaits you. In this article, we will guide you through the shortest route, the main stations in both cities, the picturesque towns you pass by, and the iconic items you can discover during your departure and arrival. So, hold on tight and let's get started!
The train journey from Milan to Portovenere covers a distance of approximately 242 kilometers. The quickest route begins at Milano Centrale, Milan's main railway station, and takes you to La Spezia Centrale, the gateway to the enchanting Cinque Terre region. From there, you can catch a local train to reach your final destination, Portovenere.
As you embark on this scenic adventure, there are several remarkable cities and towns you will pass by. First, you'll traverse the picturesque town of Voghera, known for its charming historic center. Next, the train continues through the vibrant city of Genoa, famous for its delicious seafood and impressive architecture. Make sure to peek out the window and catch a glimpse of the stunning Genoa Cathedral.
As you approach La Spezia, the vibrant colors and picturesque landscapes of the Cinque Terre National Park will captivate your heart. The Riomaggiore, Manarola, Corniglia, Vernazza, and Monterosso al Mare are the five enchanting villages that make up this UNESCO World Heritage Site. These coastal gems are renowned for their colorful houses perched on cliffs, breathtaking hiking trails, and delectable seafood.
Upon arriving in Portovenere, be prepared to be greeted by the iconic Church of St. Peter perched at the edge of the sea. This medieval church, with its black and white stripes, stands proudly as the symbol of Portovenere. Once you've explored the town and its picturesque harbor, don't miss the chance to take a boat trip to nearby Palmaria Island, renowned for its crystal-clear waters and peaceful coves.
In conclusion, the journey from Milan to Portovenere by train is truly an experience to remember. From the vibrant cities of Milan and Genoa to the breathtaking beauty of the Cinque Terre villages, this coastal adventure will leave you in awe. So pack your bags, hop on the train, and let the enchantment of the Italian coastline unfold before you!
รถไฟจาก มิลาน ไปยัง ปอร์โตเวเนเร ใช้เวลาเท่าไหร่?
การเดินทางโดยรถไฟจากมิลานถึงปอร์โตเวเนเรใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงถึง 4 ชั่วโมง.
การเดินทางที่เร็วที่สุดจาก มิลาน ไปยัง ปอร์โตเวเนเร โดยรถไฟคืออะไร?
การเดินทางที่เร็วที่สุดคือการใช้บริการรถไฟ Frecciabianca ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง.
รถไฟจาก มิลาน ไปยัง ปอร์โตเวเนเร ราคาเท่าไหร่?
ราคาตั๋วรถไฟจากมิลานไปปอร์โตเวเนเรอยู่ระหว่าง €20 ถึง €40 ขึ้นอยู่กับชั้นการเดินทางและการจองล่วงหน้า.
มีรถไฟวิ่งตรงจาก มิลาน ไปยัง ปอร์โตเวเนเร หรือไม่?
ใช่ มีรถไฟวิ่งจากมิลานไปยังปอร์โตเวเนเรโดยตรง วันละหลายเที่ยว.
ระยะทางจาก มิลาน ไปยัง ปอร์โตเวเนเร โดยรถไฟเท่าไหร่?
ระยะทางโดยรถไฟระหว่างมิลานและปอร์โตเวเนเรคือประมาณ 300 กิโลเมตร.
รถไฟจะหยุดที่เมืองใดบ้างในเส้นทางจาก มิลาน ไปยัง ปอร์โตเวเนเร?
รถไฟอาจจะหยุดที่เมือง เจนัว และ ซาวอนา ขึ้นอยู่กับเส้นทาง.
เปิดประตูสู่ มิลาน เมืองแห่งแฟชั่นและศิลปะ อิตาลี ที่ผสานความงามของสถาปัตยกรรมโบราณเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว มิลานไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางการค้าและแฟชั่น แต่ยังมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมายที่รอให้คุณไปค้นหา
มหาวิหารดูโอโม
มหาวิหารดูโอโม หรือ มหาวิหารมิลาน เป็นสัญลักษณ์ของเมือง ด้วยเสาอากาศที่ซับซ้อนและประติมากรรมที่งดงาม มหาวิหารแห่งนี้เป็นผลงานสถาปัตยกรรมโกธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมิลาน ค่าเข้าชมประมาณ €3 แต่หากต้องการเข้าชมจุดชมวิว ต้องเพิ่มอีก €9
ปราสาทสฟอร์เซสโก
ปราสาทสฟอร์เซสโก เป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงซึ่งก่อสร้างในศตวรรษที่ 15 ตั้งอยู่ในพื้นที่กว้างขวางที่มีสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์ ปราสาทนี้เคยเป็นที่ตั้งของตระกูลสฟอร์ซา ค่าเข้าชมฟรี แต่พิพิธภัณฑ์ภายในอาจมีค่าใช้จ่าย
บันไดหินอ่อนวิกตอเรีย แอมานูเอเล่ II
บันไดหินอ่อนวิกตอเรีย แอมานูเอเล II หนฒสนี่เป็นศูนย์กลางการช็อปปิ้งแห่งหนึ่งที่สวยงามที่สุดในโลก ด้วยการตกแต่งภายในที่ประณีตบรรจงและหลังคากระจกที่ทำให้แสงส่องสว่างไสวอย่างงดงาม ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นและชมการแสดงของ มิลาน
ลา สกาลา
ลา สกาลา เป็นโรงละครโอเปร่าที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ที่นี่ไม่เพียงแต่ใช้สำหรับการแสดงโอเปร่า แต่ยังมีคอนเสิร์ตและการแสดงบัลเลท ค่าเข้าชมแต่ละการแสดงขึ้นอยู่กับที่นั่งและรายการแสดง
หอศิลป์ปินาโคเทกา ดิ บรรยารา
หอศิลป์ปินาโคเทกา ดิ บรรยารา ถือเป็นหนึ่งในหอศิลป์ที่สำคัญที่สุดใน อิตาลี มีการแสดงผลงานศิลปะของเลโอนาร์โด ดา วินชี และศิลปินชื่อดังอื่นๆ การเยี่ยมชมที่นี่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับผลงานศิลปะชั้นเยี่ยม
มหาวิหารซานตา มาเรีย เดลเล่ กราซี
มหาวิหารซานตา มาเรีย เดลเล่ กราซี เป็นโบสถ์ที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของภาพเขียน "The Last Supper" โดยเลโอนาร์โด ดา วินชี ตั้งอยู่ในอาคารที่มีชื่อเดียวกัน ค่าเข้าชมประมาณ €15 ต้องจองล่วงหน้า
พิพิธภัณฑ์โบสถ์ซาน มัวริซิโอ
พิพิธภัณฑ์โบสถ์ซาน มัวริซิโอ เป็นสถานที่ที่เก็บรวบรวมงานศิลปะศาสนาและประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมือง ตั้งอยู่ในโบสถ์ที่ก่อสร้างในยุคบาโรก ที่นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและศาสนาของ อิตาลี
การเดินทางผ่านเมือง มิลาน นั้นเต็มไปด้วยความรื่นรมย์ ไม่ว่าจะเป็นการชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่งดงาม, ลิ้มลองอาหาร อิตาลี แท้ๆ หรือการเพลิดเพลินกับช้อปปิ้งในบรรยากาศของเมืองแห่งนี้ที่ไม่เหมือนใคร
ปอร์โตเวเนเร เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ซ่อนเร้นอยู่ในอ้อมกอดของประเทศอิตาลี มีความโดดเด่นทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่หลงเหลือ รวมทั้งมีอาหารท้องถิ่นที่อร่อยยากจะลืมเลือน
ปราสาท Portovenere
ตั้งอยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดของเมือง ปราสาทแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคงและความงดงามทางสถาปัตยกรรมของอิตาลี ตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 เปิดทุกวัน 10:00-18:00 ค่าเข้าชม €5
โบสถ์ San Pietro
ตั้งอยู่บนหน้าผาที่สุดปลายของเมือง มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ผสมผสานกับสไตล์ลอมบาร์ด ตัวโบสถ์มีจุดเด่นที่หินมรกตที่ใช้ในการก่อสร้าง เวลาเปิด 09:00-19:00 ไม่มีค่าเข้าชม
ถ้ำ Byron
เป็นสถานที่ที่นักเขียนชื่อดัง Lord Byron เคยหยุดพักเพื่อเขียนงาน นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและรู้สึกสัมผัสถึงแรงบันดาลใจที่เขาเคยได้รับ ถ้ำเปิดทุกวัน ไม่มีค่าใช้จ่าย
อุทยานแห่งชาติ Cinque Terre
ห่างจากปอร์โตเวเนเรไม่ถึง 10 กม. อุทยานแห่งนี้ประกอบไปด้วยหมู่บ้านริมทะเล 5 หมู่บ้านที่งดงาม สามารถเดินเท้าหรือนั่งเรือเพื่อเยี่ยมชมหมู่บ้านเหล่านี้ได้
พิพิธภัณฑ์ศิลปะ MODI
แสดงผลงานศิลปะของศิลปินอิตาลี และนานาชาติ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ค่าเข้าชม €7 เปิด 10:00-20:00
แหลม Doria
สถานที่นี้เหมาะสำหรับการถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามและมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองและทะเลที่กว้างใหญ่ เปิดทุกวัน ไม่มีค่าใช้จ่าย
ร้านอาหาร La Torre
ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง นำเสนออาหารทะเลสดใหม่และพาสต้าแบบดั้งเดิมของอิตาลี ต้องลองกั้งทอดและริซอตโต้หมึกดำ
การเดินทางรอบเมืองปอร์โตเวเนเรเป็นการผจญภัยที่แสนวิเศษ ไม่เพียงแต่ได้สัมผัสกับความงามของสถาปัตยกรรมและธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังได้ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อว่าอร่อยที่สุดในโลก
มิลาน เป็นหนึ่งในเมืองหลวงด้านการเดินทางโดยรถไฟใน ยุโรป โดยมี สถานีรถไฟมิลาโน เซ็นทรัล (Milano Centrale) เป็นสถานีหลักที่ใหญ่ที่สุดในเมือง นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟสำคัญอื่นๆ เช่น สถานีรถไฟมิลาโน ปอร์ตา การิบัลดี (Milano Porta Garibaldi) และ สถานีรถไฟมิลาโน โรกอเร (Milano Rogoredo) ที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางไปยังเมืองต่างๆ ใน อิตาลี และประเทศใกล้เคียงได้อย่างสะดวกสบาย
สถานีรถไฟมิลาโน เซ็นทรัล ตั้งอยู่ที่ Piazza Duca d'Aosta, 1, 20124 Milano MI, อิตาลี เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 04:00 น. ถึง 01:00 น. ณ สถานีนี้ คุณสามารถพบกับบริการเก็บกระเป๋าที่สะดวกสบาย เพื่อเก็บสัมภาระขณะที่คุณไปเที่ยวชมเมืองหรือรอเวลาเดินทางต่อ บริการนี้ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเดินท่องเที่ยวโดยไม่ต้องห่วงเรื่องกระเป๋าเดินทาง
สถานีรถไฟหลักของปอร์โตเวเนเร คือ สถานีรถไฟปอร์โตเวเนเรกลาว ซึ่งเป็นศูนย์กลางการจราจรที่สำคัญในเมือง นอกจากนั้นยังมีสถานีรถไฟย่อยอีกหลายแห่งที่กระจายอยู่ทั่วเมือง เช่น สถานีรถไฟปอร์โตเวเนเรเซ็นทรัล และ สถานีรถไฟปอร์โตเวเนเรเวสต์ ที่ให้บริการทั้งรถไฟภายในเมืองและรถไฟข้ามเมือง
สถานีรถไฟปอร์โตเวเนเรกลาว ตั้งอยู่ที่ ใจกลางเมือง โดยมีเวลาทำการตั้งแต่เวลา 05:00 น. ถึง 23:00 น. ทุกวัน นอกจากนี้ยังมีบริการเก็บกระเป๋าสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริการที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ โดยไม่ต้องหิ้วกระเป๋าหนักๆ ไปด้วย
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ